ไทยกับความท้าทายสู่การเป็น Medical Hub

ศ. ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงเป้าหมายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทย ที่มุ่งสู่การเป็น Medical Hub อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหากทำสำเร็จจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการจ้างงาน และดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศได้ จุฬาฯ มองเห็นความสำคัญดังกล่าง และขออาสาช่วยเร่งสปีดไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติในฐานะสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ

ซึ่งศ. ดร.บัณฑิต ยังกล่าวว่า ประเทศไทยเดิมนับว่ามีความพร้อมในอุตสาหกรรมการแพทย์ และสาธารณสุขในระดับภูมิภาค ดังที่เห็นจากการมีบุคลากรเครือข่ายสุขภาพกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1.9 ล้านคน ดังนั้นจุฬาฯ จึงพัฒนาหลักสูตร เกิดเป็น หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง “เวฬา” หรือ “Vitality Enhancement & Longevity Academy – VELA” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระจายองค์ความรู้ล่าสุดด้านการแพทย์และสุขภาพสู่สังคมและชุมชนต่อไป

รู้จักหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง “เวฬา”

บรรยากาศพิธีปิดหลักสูตรเวฬารุ่น 1

หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการแพทย์และธุรกิจสุขภาพ “เวฬา” หรือ Vitality Enhancemnet & Longevity Academy – VELA เป็นหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านการดำเนินงานของ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ และ บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด ร่วมกับ หน่วยงานอื่นๆ

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)กระทรวงสาธารณสุข
บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
บริษัท ดีกรีพลัส จำกัดสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

หลักสูตร “เวฬา” เกิดจากการเห็นความสำคัญของวิทยาการความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขอันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Bioinformatics, AI และอื่นๆ ที่ส่งผลให้นักวิจัยสามารถเข้าใจกลไกของร่างกายได้ลึกซึ้งขึ้นในเวลารวดเร็ว ความก้าวหน้าดังกล่าวนำมาซึ่งศาสตร์การแพทย์ใหม่ๆ เช่น (1) การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine), (2) เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม (Regenerative Medicine), (3) ภาวะสุขสมบูรณ์และอายุยืน (Well-being and Longevity)

สำหรับรุ่นที่ 1 มีผู้สมัครเข้าร่วมหลักสูตรเกินกว่าจำนวนที่สามารถรับได้ ทางคณะกรรมการหลักสูตรจึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรมากที่สุดก่อน โดยเปิดรับผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน, กลุ่มยาและเภสัชกรรม, แล็บ และอุปกรณ์การแพทย์,กลุ่ม โรงแรม รีสอร์ต สปาร์, กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, และกลุ่มผู้สนใจดูแลสุขภาพ/ลงทุนในธุรกิจสุขภาพ จนได้ผู้ได้รับการคัดเลือกทั้งสิ้น จำนวน 85 คน

รูปแบบการเรียน

ผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะถูกแบ่งเป็น 6 กลุ่ม: DNA, RNA, Peptide, Telomere, Exosome, และ Sirtuin ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างอุตสาหกรรม โดยผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะเข้าร่วมกิจกรรมการอบรมแบบ Onsite ผ่าน 6 รูปแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การเรียนรู้สำหรับผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ ดังที่ปรากฏด้านล่าง

หัวข้ออบรมและวิทยากร

หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง “เวฬา” แบ่งออกเป็น 13 ธีม ได้แก่

1. The Future of HealthTech & Longevity8. Sleep & Mental Health
2. Physical Health & Precision Medicine9. Finance & Platform for Longevity
3. Sexual Health & Sexual Enhancement10. Creative Arts for Longevity
4. The Science of Reverse Aging11. Lifestyle Medicine & Brain Health
5. Integrative Medicine12. Wellness Services & Longevity Center
6. Nutrition & Weight Management13. Aging in Place & Dying in Peace
7. Spiritual Wellness & Lifestyle Medicine
VELA1 Speakers
VELA1 Speakers

ผู้เข้าร่วมหลักสูตรได้ร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ​ในด้านนั้นๆ ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งใน และต่างประเทศ ทั้งยังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งสิ้น โดยวิทยากรแต่ละท่านได้ปรับเนื้อหา และภาษาในการอบรมให้สามารถเข้าถึงได้ทุกคน ไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นแพทย์ หรือนักวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์เท่านั้น

ซึ่งนอกจากกิจกรรมการอบรมวิชาการแล้ว ในทุกสัปดาห์ทางหลักสูตรยังสนับสนุนให้เกิดการทำความรู้จัก และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมหลักสูตรแต่ละท่าน ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนิทสนมกันมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพร่วมกัน

ชมนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพ

นอกจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เข้าร่วมหลักสูตรยังสามารถเสริมความเข้าใจ และมองเห็นโอกาสการนำความรู้ด้านการแพทย์และสุขภาพสมัยใหม่ไปใช้จริงมากขึ้น ผ่านการชมการสาธิต ทดลองใช้ ตลอดจนพูดคุยแลกเปลี่ยนกับ ผู้ประกอบการนวัตกรรมการแพทย์ และสุขภาพ ในแต่ละธีมทุกสัปดาห์

เยี่ยมชมสถานประกอบการจริง

เมื่อผู้เข้าร่วมหลักสูตรได้อัปเดตเทรนด์ และชมการสาธิตนวัตกรรมในห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาชมการใช้นวัตกรรมในสถานประกอบการจริง ผู้เข้าร่วมหลักสูตรรุ่นที่ 1 ได้เยี่ยมชม 2 สถานประกอบการ ได้แก่

1. Wellness Wecare Center by Mega Wecare จังหวัดสระบุรี

ซึ่งเป็นศุนย์อบรมสุขภาพเพื่อการป้องกัน บำบัดฟื้นฟูและพลิกผันโรค ผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (Lifestyle Modification) โดยผู้เข้าร่วมหลักสูตรได้ลิ้มรสอาหารสุขภาพ Plant-based และลงมือปฏิบัติ Spiritual Wellness ไปพร้อมกับวิทยากรผู้ก่อตั้งศูนย์ นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์อีกด้วย

2. RXV Wellness Village สามพราน

มีคอนเซปต์เพื่อเป็นสถานที่สำหรับ Everyone’s Wellness ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายโซนทั้งโรงแรมที่พัก ส่วนของ Wellness ที่มีกิจกรรม และ workshop ทั้งเดี่ยวและกลุ่มให้เข้าร่วม

ผู้เข้าร่วมหลักสูตรเวฬาได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่าง “Crystal Bowl Healing” ที่สร้างคลื่นที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด และความเหนื่อยล้าของสมอง พร้อมสำหรับความท้าทายใหม่ๆ

ต่อยอดความรู้สู่นวัตกรรมด้วย VELA Prospective Project

หลังจากที่ผู้เข้าร่วมหลักสูตรได้อัปเดตเทรนด์การแพทย์และสุขภาพแล้ว แต่ละกลุ่มก็ได้รับมอบหมายให้หาโอกาสต่อยอดหัวข้อที่สนใจสู่การสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ หรือนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อนำเสนอไอเดีย และแผนธุรกิจในกิจกรรม VELA Project Pitching

ทางหลักสูตรได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิถึง 3 ท่านมาเป็นผู้ตัดสิน ได้แก่

🔸 ดร.ศันธยา กิตติโกวิท ผู้อำนวยการ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผู้ช่วยอธิการบดี งานด้านนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

🔸 คุณกรด โรจนเสถียร ประธานคณะอนุกรรมการธุรกิจบริการสุขภาพ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาประธานบริหาร บริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ต จำกัด

🔸 คุณวรรณฐินี แก้วไทรย้อย ผู้อำนวยการภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

โดยทีมที่ได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่ม DNA และ Exosome ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองทีมจะได้รับการสนับสนุน การปรึกษา และการบ่มเพาะจากศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ (Chula Medical Innovation Center – CMIC) และศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ในลำดับต่อไปอีกด้วย

บินลัดฟ้าชมนวัตกรรมระดับโลก

ส่งท้ายหลักสูตรด้วยการศึกษาดูงานภาคสมัครใจ ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสมาพันธรัฐสวิส เพื่อศึกษาดูงาน และเยี่ยมชมสถานประกอบการจริง ด้าน Health & Wellness และห้องวิจัยสังกัดมหาวิทยาลัยวิจัย, โรงพยาบาลเฉพาะทาง และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สามารถดูรายละเอียดและภาพกิจกรรมสำหรับ International Trip เพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามรุ่นถัดไป

ถ้าคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์ด้านการแพทย์และสุขภาพล่าสุด สามารถติดตามรายละเอียด และสมัครได้ที่เว็บไซต์ของหลักสูตร หรือ Facebook

Health Science

คณะวิทย์ ม.มหิดล ผนึกกำลัง ดีกรีพลัส เปิดตัวคอร์ส “Essentials for Biosafety and Biosecurity for BSL-2”

บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด ผนึกกำลัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมเปิดตัวหลักสูตร “Essentials for Biosafety and Biosecurity for BSL-2” ในรูปแบบ ...
News

ดีกรีพลัส ร่วมงานเปิดตัว Care D+ อัปสกิลบุคลากรทางการแพทย์กว่า 10,000 คน

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด ร่วมเปิดตัวโครงการอบรมขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) มุ่งอัปสกิลบุคลากรทางการแพทย์กว่า 10,000 คนทั่วประเทศ ...

Comments are closed.